Tuesday, November 28, 2023

การวิเคราะห์บทความ

 งานวิเคราะห์บทความ       

การออกแบบการสั่งงานให้นักศึกษาเรียนรู้จากบทความนั้นควรมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและเน้นการพัฒนาทักษะอ่านและการวิเคราะห์ข้อมูล นี่คือขั้นตอนและเนื้อหาที่ควรให้นักศึกษาดูดึงสนใจ

  1. หัวข้อและบทความ: ให้นักศึกษาเลือกบทความที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อหรือประเด็นที่กำหนดให้คือเรื่องเกี่ยวกับ "ภาษากับการสื่อสาร" ต้องการให้เลือกบทความที่น่าสนใจและมีข้อมูลที่เพียงพอในการวิเคราะห์และตอบคำถามที่กำหนด
  2. การอ่าน: ให้นักศึกษาอ่านบทความอย่างละเอียด โดยให้ความสำคัญกับหัวข้อหลัก และเมื่อพบคำศัพท์หรือความคิดที่ยากต่อการเข้าใจ ให้นักศึกษาใช้พจนานุกรมหรือแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมเมื่อจำเป็น
  3. การสรุป: ให้นักศึกษาทำสรุปเรื่องสำคัญในบทความ รวมถึงความคิดเห็นและประเด็นที่มีนักศึกษาคิดว่าสำคัญ
  4. การวิเคราะห์: ให้นักศึกษาวิเคราะห์เนื้อหาของบทความ โดยการตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อหา เช่น ใครเป็นผู้เขียน? มีข้อมูลที่รองรับความเห็นหรือไม่? บทความมีมุมมองเฉพาะหรือไม่? ให้ใช้แนวการวิเคราะห์ แบบ 5W1H
  5. การอภิปราย: ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับบทความ อาจสอบถามคำถามเพิ่มเติมหรือเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อนี้
  6. งานเขียน: ให้นักศึกษาเขียนบทความสรุปและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้อ่าน รวมถึงความคิดเห็นส่วนตัว
  7. การถามและสนทนา: ให้นักศึกษาสรุปและพูดคุยเกี่ยวกับบทความ อาจมีการถามคำถามเพิ่มเติมหรือเสนอความคิดเห็นต่อกัน
  8. ไม่ลืมที่จะอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลด้วย

    อธิบายเพิ่มเติม 5W 1H (Who, What, When, Where, Why, How)

    เพื่อให้นักศึกษาใช้ 5W 1H (Who, What, When, Where, Why, How) เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์เนื้อหาของบทความได้ โดยนักศึกษาสามารถเปลี่ยนแปลงขั้นตอน และคำถามเพื่อให้ใช้เครื่องมือนี้ได้ดังนี้:

    1. Who (ใคร): ให้นักศึกษาระบุผู้เขียนของบทความ และผู้ที่เป็นเป้าหมายหรือกลุ่มที่บทความนี้เน้นถึง

    2. What (อะไร): ให้นักศึกษาระบุเนื้อหาหลักและข้อมูลสำคัญในบทความ รวมถึงความรู้สึกหรือความคิดเห็นที่เป็นที่น่าสนใจ

    3. When (เมื่อ): ให้นักศึกษาระบุเวลาหรือช่วงเวลาที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับประวัติและเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง

    4. Where (ที่ไหน): ให้นักศึกษาระบุสถานที่หรือบริบทที่เกี่ยวข้องกับบทความ และความสัมพันธ์ของสถานที่กับเนื้อหา

    5. Why (ทำไม): ให้นักศึกษาคิดเกี่ยวกับเหตุผลหรือจุดประสงค์ที่ผู้เขียนของบทความมีในการเขียน และเหตุผลที่เนื้อหามีความสำคัญ

    6. How (อย่างไร): ให้นักศึกษาคิดเกี่ยวกับวิธีการผู้เขียนใช้ในการสื่อสารหรือสร้างเนื้อหา และวิธีการที่นักศึกษาจะใช้ในการเขียนบทความสรุปและวิเคราะห์

    การใช้ 5W 1H ในการวิเคราะห์จะช่วยให้นักศึกษาเรียนรู้วิธีการสำรวจและเข้าใจเนื้อหาของบทความอย่างละเอียดและระเบียบมากยิ่งขึ้น

Tuesday, November 21, 2023

กิจกรรมที่ 2 การวิเคราะห์พฤติกรรมการสอนกับการสื่อสารในชั้นเรียน

   กิจกรรม: การวิเคราะห์และสะท้อนเรื่องการสื่อสารในภาพยนตร์เรื่อง     กิจกรรม การวิเคราะห์ หนังสั้น หรือภาพยนตร์

      กิจกรรม  การสอนเพื่อเน้นความสำคัญของการสื่อสารระหว่างครูและนักเรียน โดยสามารถแบ่งเป็นขั้นตอนและมีเกณฑ์การประเมินที่  ชัดเจน   ต่อไปนี้คือตัวอย่าง

กิจกรรมที่อาจใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง:

https://www.youtube.com/watch?v=MyWcXO5ROaY

https://www.youtube.com/watch?v=77bBajifkxs

   

กิจกรรม: การสังเกตและวิเคราะห์การสื่อสารผ่านหนังสั้น/ภาพยนตร์

วัตถุประสงค์ของกิจกรรม:

  1. เพื่อให้นักศึกษามีโอกาสสังเกตการสื่อสารระหว่างครูและนักเรียน
  2. เพื่อวิเคราะห์คุณค่าและผลกระทบของการสื่อสารที่มีต่อกระบวนการสอนและการเรียนรู้

ขั้นตอนของกิจกรรม:

1.แนะนำหนังสั้น หรือ ภาพยนตร์: เลือกหนังสั้นที่แสดงถึงการสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียน (10-15 นาที)

2.การสังเกต: ให้นักศึกษาดูหนังสั้นและมุ่งเน้นการสังเกตการสื่อสารที่เกิดขึ้น (20 นาที)

3.กลุ่มสนทนา: แบ่งนักศึกษาออกเป็นกลุ่มย่อย เพื่อวิเคราะห์

และถกเถียงเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาสังเกต (15 นาที)

4.นำเสนอ: แต่ละกลุ่มนำเสนอการวิเคราะห์ของตน (10 นาที)

5.สรุป: ผู้สอนสรุปความคิดเห็นจากนักศึกษาและเน้นย้ำบทเรียนที่ได้เรียนรู้ (5 นาที)


เกณฑ์การประเมิน:

1.การเข้าร่วม: นักศึกษามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการดูหนังสั้น/ภาพยนตร์ และการสนทนากลุ่ม

2.การวิเคราะห์: นักศึกษาสามารถวิเคราะห์และอธิบายประเด็นการสื่อสารที่สำคัญในหนังสั้น/ภาพยนตร์ได้ชัดเจน

3.การให้เหตุผล: นักศึกษาให้เหตุผลและตัวอย่างเพื่อสนับสนุนวิเคราะห์ของพวกเขา

4.การสื่อสาร: นักศึกษาสื่อสารได้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพในระหว่างการนำเสนอ

5.การสรุป: นักศึกษาสามารถสรุปความเข้าใจเกี่ยวกับการสื่อสารและผลกระทบต่อการสอนและการเรียนรู้

กิจกรรมนี้สร้างโอกาสให้นักศึกษาได้ทดลองและฝึกฝนทักษะการสังเกตและวิเคราะห์ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญสำหรับครูในการสื่อสารกับนักเรียน.


กิจกรรมตอบข้อคำถามเพื่อสะท้อนพฤติกรรมการสื่อสารของครูกับนักเรียนจากการชมหนังสั้น/ภาพยนตร์ พิจารณาและวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง:


1.คำถามเกี่ยวกับการรับรู้ของนักเรียน:

    "จากการดูหนังสั้น คุณคิดว่านักเรียนรับรู้หรือตีความสิ่งที่ครูพยายามสื่อสารไปในแบบใด?

  มีสถานการณ์ใดที่แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจหรือความไม่เข้าใจของนักเรียน

 ต่อข้อความที่ครูส่งมา?"


2.คำถามเกี่ยวกับปฏิสัมพันธ์ทางการสื่อสาร:

    "อธิบายวิธีการสื่อสารของครูที่คุณสังเกตเห็น และวิเคราะห์ว่าวิธีเหล่านั้นมีผลต่อการสร้างสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของนักเรียนในห้องเรียนอย่างไร?"


3.คำถามเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการสื่อสาร:

    "หลังจากชมหนังสั้น/ภาพยนตร์ คุณคิดว่ามีสถานการณ์ใดบ้างที่การสื่อสารของครูอาจมีผลบวกหรือผล ลบต่อการเรียนรู้ของนักเรียน? โปรดยกตัวอย่างและอธิบายเหตุผลของคุณ." ในการวิเคราะห์การสื่อสารในหนังสั้น/ภาพยนตร์ สามารถใช้แนวคิดและทฤษฎีต่าง ดังต่อไปนี้:


ทฤษฎีการสื่อสารระหว่างบุคคล (Interpersonal Communication Theory): ใช้เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการสื่อสาร, ภาษากาย, และการใช้คำพูดระหว่างครูกับนักเรียน

ทฤษฎีการตอบสนองต่อการกระทำ (Response to Intervention, RTI): ช่วยให้เข้าใจว่าครูปรับเปลี่ยนวิธีสอนอย่างไรเมื่อพบกับปฏิกิริยาหรือความต้องการของนักเรียน

ทฤษฎีการสร้างความหมายร่วม (Co-construction of Meaning): ซึ่งเน้นว่าครูและนักเรียนสร้างความเข้าใจในเนื้อหาการเรียนรู้ผ่านการสื่อสารกันอย่างไร

ทฤษฎีการสอนแบบสร้างสรรค์ (Constructivist Teaching Theory): ซึ่งเน้นการมีส่วนร่วมของนักเรียนและการส่งเสริมให้นักเรียนเข้าใจและสร้างความรู้ของตนเองจากประสบการณ์

เลือกใช้ทฤษฎีที่เหมาะสมที่สุดกับจุดประสงค์ของหนังสั้น/ภาพยนตร์ และที่สามารถช่วยให้นักศึกษาเชื่อมโยงและวิเคราะห์การสื่อสารที่เกิดขึ้นในหนังสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ.


 วัตถุประสงค์: ให้นักศึกษามีโอกาสสังเกตและวิเคราะห์คุณค่าของการสื่อสารระหว่างครูและนักเรียนในหนังสั้น เพื่อเข้าใจถึงความสำคัญของการสื่อสารในการสอนและการเรียนรู้.

 ตามlink  https://youtu.be/lT4k7CgIrmI?si=0JRAQcwVB67Lmcou 



วิธีการ: ลองดูว่าในหนังสั้น มีส่วนใดสอดคล้องกับการสื่อสารในองค์ความรู้ดังกล่าว หรือจะเป็นเรื่องของปัญหาในการสื่อสารที่รายงานไปแล้ว ท้ัง 16 หัวข้อร่วมด้วยก็ได้ค่ะ





  • รับชมภาพยนตร์: ให้นักศึกษารับชมภาพยนตร์เรื่อง "ครูและพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็ก" ที่ได้รับมอบหมายจากครู ให้รับชมอย่างตั้งใจและจดบันทึกเรื่องที่น่าสนใจ.
  • วิเคราะห์ฉากและบทสนทนา: ในช่วงเวลาที่กำหนด ให้นักศึกษาเลือกฉากหรือบทสนทนาที่มีการสื่อสารระหว่างครูและนักเรียนในภาพยนตร์ และวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โดยพิจารณาสถานภาพทางสังคมและวัฒนธรรม และปัจจัยอื่นที่มีผลต่อการสื่อสารในภาพยนตร์.
  • สะท้อนความคิดเห็น: ในช่วงเวลาที่กำหนด ให้นักศึกษาสะท้อนความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับคุณค่าของการสื่อสารระหว่างครูและนักเรียนในภาพยนตร์ โดยระบุช่วงเวลาหรือฉากที่สื่อให้เห็นถึงความสำคัญของการสื่อสารในการสอนและการเรียนรู้ ให้สรุปความรู้สึกและความเข้าใจที่ได้จากการวิเคราะห์นี้อย่างชัดเจน.
การประเมิน: การประเมินคะแนนสามารถคิดจากความชัดเจนและความรู้สึกของการสะท้อนความคิดเห็น การวิเคราะห์และการนำเสนอของนักศึกษาในการประเมินคะ และให้รายงานในชั้นเรียนต่อไป

Friday, November 17, 2023

การสร้างคำถาม

ความสำคัญ "การสร้างข้อคำถาม"

ตัวอย่างข้อคำถาม ที่จะช่วยให้นักศึกษาได้แนวทางมากขึ้น

 

1.         การสร้างคำถามในการสัมภาษณ์ที่จะช่วยให้นักศึกษาตอบอย่างครบถ้วนและแสดงความคิดเห็นของพวกเขาได้อย่างชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญ นี่คือแนวทางในการวิเคราะห์และสร้างคำถามในการสัมภาษณ์:

 

2.         คำถามเปิด: ใช้คำถามเปิดเพื่อเริ่มการสัมภาษณ์ด้วยคำถามที่เปิดโอกาสให้ผู้พูดมีโอกาสแสดงความคิดเห็นและเริ่มต้นการสนทนา. เช่น "สาเหตุที่ท่านเลือกสมัครเรียนในคณะนี้คืออะไรครับ/ค่ะ?"

 

3.         คำถามประเมิน: ใช้คำถามที่ช่วยให้นักศึกษาประเมินความเหมาะสมของตัวเองกับคณะหรือมหาวิทยาลัยนั้นๆ เช่น "ท่านรู้สึกว่าท่านเหมาะสมที่จะเรียนในคณะนี้อย่างไรครับ/ค่ะ?"

 

4.         คำถามเกี่ยวกับคุณสมบัติและทักษะ: ถามเกี่ยวกับคุณสมบัติและทักษะที่นักศึกษามีเพื่อเรียนในคณะนั้น เช่น "สิ่งที่ท่านคิดว่าคุณมีข้อดีและจุดเด่นอะไรที่ทำให้เหมาะสมในการเรียนที่นี่ครับ/ค่ะ?"

 

5.         คำถามเพิ่มเติม: ใช้คำถามเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคิดและประสบการณ์ของนักศึกษา เช่น "สามารถบอกเราเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ท่านมีในคณะนี้ได้ไหมครับ/ค่ะ?"

 

6.         คำถามสรุป: ใช้คำถามสรุปเพื่อทำความสรุปหรือสร้างภาพรวมในการสิ้นสุดการสัมภาษณ์ เช่น "ในสรุปคำตอบของท่าน เหตุผลหลักที่ท่านเลือกเรียนที่นี่คืออะไรครับ/ค่ะ?"

 

การสัมภาษณ์ในกิจกรรมนี้นำเสนอความสำคัญของการตั้งคำถามและการตั้งใจฟังในกระบวนการการสื่อสาร ทักษะเหล่านี้มีความสำคัญอย่างมากเพราะเสริมสร้างการเข้าใจทั้งฝั่งผู้พูดและผู้ฟัง นี่คือสรุปสำคัญของทักษะเหล่านี้:

 

1.         การตั้งคำถาม: การสร้างคำถามที่เหมาะสมและน่าสนใจเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างการสนทนาที่มีคุณค่า คำถามที่ดีสามารถเปิดโอกาสให้ผู้พูดมีโอกาสในการแสดงความคิดเห็นและสิ่งที่สำคัญต่อเขาหรือเขาได้เรียนรู้ นอกจากนี้ การตั้งคำถามยังช่วยเพิ่มความเข้าใจของผู้ฟังและสร้างโอกาสให้พูดเกี่ยวกับเรื่องที่สำคัญกับเขาหรือเขา.

2.         การตั้งใจฟัง: การตั้งใจฟังหมายถึงการให้ความสนใจและรับฟังอย่างจริงจังต่อผู้พูด การให้ความสนใจนี้ช่วยให้เราเข้าใจข้อคิดและรายละเอียดที่ผู้พูดกำลังแสดงอย่างชัดเจน การตั้งใจฟังยังสร้างความรับผิดชอบในการเข้าใจความหมายที่ถูกส่งผ่านมา.

3.         การเรียนรู้จากการฟัง: การฟังอย่างรอบคอบและตั้งใจจะช่วยให้เราเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้พูด มันเป็นทักษะที่เราสามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงตัวเองและเพิ่มความรู้เรื่องเรื่องที่เรากำลังฟัง.

4.         การสร้างคำถาม: การสร้างคำถามเป็นทักษะที่สำคัญในการเรียนรู้และเข้าใจเรื่องใดๆ อย่างลึกซึ้ง การฝึกตัวเองในการสร้างคำถามจะช่วยให้เราค้นพบข้อมูลในลึกลึกและเสริมสร้างความเข้าใจของเรื่องที่สนใจ.   


ดังนั้น การตั้งคำถามและการตั้งใจฟังไม่เพียงแต่เป็นทักษะที่สำคัญในการสัมภาษณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นทักษะที่เราควรสร้างและพัฒนาเพื่อการเรียนรู้และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในชีวิตประจำวันของเราด้วยค่ะ.

กิจกรรมสัมภาษณ์

 กิจกรรมสัมภาษณ์

ส่วนที่ 1: การสัมภาษณ์

ในส่วนแรกนี้ เราจะสัมภาษณ์กันโดยสลับกัน ให้แต่ละคนมีเวลาสัมภาษณ์ข้างละ 10 นาที

โดยมีคำถามต่อไปนี้:

  • แนะนำตัวเอง
  • ทำไมคุณถึงสมัครเรียนในคณะนี้?
  • ทำไมคุณถึงเลือกมาเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้?
  • ทำไมคุณรู้สึกว่าคณะนี้เหมาะสมกับคุณ?
  • บอกเราเกี่ยวกับข้อดีและจุดเด่นของคุณ
  • คำถามเพิ่มเติมเพื่อวัดทัศนคติ
  • คำถามเพิ่มเติมเพื่อวัดความรู้ความสามารถ
  • มีคำถามเพิ่มเติมที่คุณต้องการถามผู้สัมภาษณ์หรือไม่?

ส่วนที่ 2: สรุปสิ่งที่ได้จากการสัมภาษณ์ และส่งใน Google Classroom

ส่วนที่ 2: สรุปและส่งใน Google Classroom

หลังจากสัมภาษณ์เสร็จสิ้น ให้แต่ละคนสรุปข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ของเพื่อนๆ โดยเน้นบอกถึงความเหมาะสมของเพื่อนร่วมชั้นในคณะและมหาวิทยาลัย จากนั้นให้ส่งข้อมูลสรุปนี้ใน Google Classroom เพื่อแบ่งปันความรู้และความเข้าใจกับกลุ่มเพื่อนๆ

 

กิจกรรมนี้จะช่วยให้เราได้รู้จักกับเพื่อนร่วมชั้นมากขึ้น และเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุผลที่พวกเขาเลือกมาเรียนในคณะนี้ ทำให้เรามีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมชั้นและเสริมแรงบันดาลใจในการเรียนรู้เพิ่มเติมในคณะของเราด้วยค่ะ.

ในกิจกรรมนี้เราจะมีโอกาสสัมภาษณ์กับเพื่อนๆ นักศึกษาที่เข้ารับการสมัครเรียนในคณะที่เราเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยของเราเอง กิจกรรมนี้จะช่วยให้เราได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเพื่อนร่วมชั้นของเราและความเหมาะสมของเขากับคณะของเรามากขึ้น ต่อไปนี้คือรายละเอียดของกิจกรรม: