Sunday, November 22, 2009

ตัวอย่างงานเขียนของนักเรียนชั้นป.6



















เขียนโดย ตระการ ยิ้มตระการ

วันปิดเทอมที่แสนสนุก?


หลังวันสอบเสร็จฉันก็ได้แต่คิดว่า” เย้ปิดเทอมแล้ว ”คิดว่า คงมีอะไรทำในหลายๆอย่างจากนั้นก็เพื่อนไปบ้านเพื่อน แต่ยังไปไม่ได้!? เพราะงานหลายๆอย่างยังไม่ได้ส่งต้องรีบรวบรวมงานไปส่งทั้งคณิต,อังกฤษ ไหนต้องท่องภาษาอีก ต้องวิ่งไปโน่นไปนี่ เงื่อท่อมตัวเลย (ก่อนหน้านั้นบอกเพื่อนให้ไปก่อนแล้ว) วิ่งไปที่หอพักมัน พอเปิดไป ก็คิดในใจว่า” โอ้มีกีต้าร์ด้วยแหะ “ เลยขอเล่นดูเราก็เรียนมา3ปีได้แล้วมั้งพอได้ถือเท่านั้นแหละ “ มันเล่นยังไงวะ” เล่นผิดๆถูกๆถูๆไถๆ อะพอไปได้
พออยู่ได้ประมาณ2ชั้วโมงแม่ก็โทรมาว่าให้ไปหาที่เซ็นทั้นเราก็ถามน้าของเพื่อนว่าไปยังไง
เขาก็บอกเราว่าให้ไปมอเตอร์ไซรับจ้างไปหน้ามอแล้วต่อรถ2แถวสีแดงลงเซ็นทั้น เอาละรู้วิธีไปแล้วก็ลงมือทำ อะไปถึงแล้วก็หาแม่ว่าอยู่ไหนหาเจอแล้วก็กลับบ้าน อาบน้ำ กินนม นอน

จากนั้นได้ไม่นานก็มีราชพฤกษณ์เกมส์วันแรกเพิ่อนชวนไปงานก็เลยบอกว่าขอคิดดูก่อนแม่เลยบอกว่าให้ไปอะไปก็ได้ก็เลยถ่อสังขานไปจนได้หามันตั้งนานสองนานเลยโทรไปถามว่าอยู่ไหน แต่ได้คำตอบว่า “ อยุ่บ้านว่ะ ” เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ไหนๆก็มาแล้วก็เที่ยวดูคนอื่นเล่นกีฬาเลยละกันไปไม่เจอใครเลย นึกได้ว่าพี่ซ่อมเชียร์อยู่เลยไปดู(อ้อผมมี พี่1คน น้อง1คน) เอ๊ะไม่ได้เรื่องเลย แต่ดูจริงๆวันเปิดสวยมากถึงกับงงทำได้ไงเนี่ย ดูเชีร์ยแล้วกลับบ้านแล้วก็ไปวันปิด สวยกว่าวันเปิดอีก
พอดูสักพักจะมีขบวนนักกีฬาเดินมา แต่พี่ผมบอกว่าส่วนใหญ่เป็นนักกีฑามั่วๆมาเดินไม่รู้ว่าจริง
หรือป่าว จากนั้นประมาณวันที่ 29 ตุลาคม ได้ไปงานไอบีบีเอส2009 เดินดุโน่นดูนี่ดูนี่โหเยอะมากเลยนี่ก็สวยโน่นก็สวย แถมมีปืนแต่งพิเศษกระบอกเดียวในโลกก็ว่าได้ จะว่าไปแค่ดูเงินก็ปลิวหายไปเยอะเลยครับได้ปืนมากระบอกหนึ่งมันมีชื่อว่า MB-06 เป็นระบบแอร์คอกกลิ้ง คือแบบการชักยิงที่ละนัดแก๊ส 2 กระป๋อง ลูกกระสุน2 ถุงหนังสืออีกหลายเล่มเลยและอะไรอีกหลายๆอย่างเลยแต่ตอนนี้ก็เก็บตังอยุ่อีกเยาะเลยทีเดียวตอนนี้ก็เก็บอยู่ขาดอีกหลายบาทเลยเข้าเรื่องอื่นดีกว่า
ตอนนี้ผมอยู่แต่บ้านไม่ค่อยได้ไปไหนเลยไม่ค่อยมีเรื่องเล่าเยอะ ผมอยู่กับหมา ตัวแต่อีก ตัวถูกเอาไปให้คนอื่นคงงงว่าเพราะทำไมถึงถูกเอาไปปล่อย เพราะมันอุจจาระ(ขี้)ไม่เป็นที่เลยโดนเอาไปปล่อยผมเลยอยู่กับหมาแค่ตัวเดียวแต่ตัวนี้อยู่กับผมตั้งแต่ผมอายุห้าขวบจนผมอายุสิบสองแล้ว
ตอนนี้มันคงแก่กว่าผมแล้วมั้งเห็นเขาว่าหมาอายุมากกว่าคนเจ็ดปี จะว่าไปผมก็เบื่อหน้ามันแล้ว แต่แม่กับพ่อผมไม่ค่อยอยู่บ้านเลยต้องทำกับข้าวกินเอง (มาม่า) ทุกวันเลยไม่มีเรื่องเล่าให้ฟังแล้ว
จบแล้วคร้าบ (._.)\












+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




ดีและร้ายในช่วงปิดเทอม

เขียนโดย ดช. ณภัทร เก่งกล้า

หลังจากวันสอบปลายภาควันสุดท้ายของเทอมหนึ่ง ผมและเพื่อนก็ตั้งใจจะไปพักผ่อนนั้นก็ คือว่าพวกผมจะไปเที่ยวกันสักที่ แต่ก็หาข้อสรุปไม่ได้ซะที่ในที่สุดผมกับเพื่อน ๆ ก็ไม่ได้ไปกัน
หลังจากวันนั้นแล้วผมก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจในการซ้อมกีฬาเทนนิสเพื่อไปแข่งในกีฬาสาธิตสามัคคี ครั้งที่ ๓๔ “ ราชพฤกษ์” เกมส์ กับพวกพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ บางคนดีใจที่ได้ซ้อมเพราะได้มาเจอเพื่อนๆหรือเปล่า แต่สำหรับบางคนผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดยังไง ! แต่สำหรับผม ผมก็ไม่รู้สิว่าคิดยังไง
วันซ้อมวันแรกก็มาถึง ทุกคนก็ตั้งใจซ้อม (ส่วนใหญ่) แต่บางคนก็ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเปล่า กีฬาเทนนิสใช้เวลาซ้อมทั้งหมด ๓ ชั่วโมง แต่เวลาผ่านไปแค่ ๑.๓๐ ชั่วโมง ทุกคนก็เริ่มลิ้นห้อยแล้ว(เหนื่อยมาก) ในความเหนื่อยก็ยังมีความโชคดีอยู่อาจารย์เค้าบอกว่าจะมีข้าวเลี้ยงทุกคนต่างก็ดีใจที่จะได้กินข้าว วันซ้อมวันแรกผ่านไป ผมบอกกับตัวเองว่านี่แค่วันแรกนะเนี่ย ทำเกือบตาย ถ้าวันต่อไปจะขนาดไหน ! แต่บางทีที่อยู่คนเดียวผมก็อดคิดไม่ได้ว่าเราชอบตีเทนนิสจริงๆหรอ? เราก็พูดเองเออเองว่าถ้าเราไม่ชอบแล้วเราจะตีมาได้ถึง ๕-๖ ปี หรอ พอมาถึงช่วงกลางกลางของการซ้อม ในขณะที่นั่งพักอยู่ผมก็เห็นฝากระป๋องส่วนที่เป็นโลหะบางๆ ผมก็หยิบขึ้นมาเล่น แต่ว่าไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะความโง่หรือความอะไร อยู่ดีๆผมก็เอามันมาปาดที่นิ้วมือแล้วมันไม่เป็นอะไรก็เลยลองเอามาปาดขาตัวเองจนเป็นแผล ผมก็ถามเพื่อนว่ามีพลาสเตอร์ยาหรือเปล่า แต่บังเอิญว่าเพื่อนเค้ามีก็เลยโชคดี ผมอยากจะบอกว่าหลังที่ผมซ้อมเสร็จ ผมก็มีร้านร้านหนึ่งที่ผมชอบไปมากคือ Campus coffee และที่ผมชอบกินมากที่สุดคือ topping milo ลืมบอกว่าอยู่ที่ไหนอยู่ข้างสนามเทนนิสใน ม.บูรพา
วันสุดท้ายของการซ้อมมาถึง ทุกคนก็ยังคงตั้งใจเหมือนกัน รวมถึงผมด้วย ในวันนั้นอาจารย์เค้าก็แจกเสื้อด้วย วันนั้นอาจารย์จะให้เด็กเล่นหน่อยเพราะพรุ่งนี้เป็นวันแข่งกีฬาสาธิตสามัคคีครั้งที่ ๓๔
แต่ผมกับพี่ Noodee ก็ซ้อมต่ออีกนิดนึงแล้วก็ค่อยกลับ
วันแข่งขันสาธิตสามัคคีครั้งที่ ๓๔ “ ราชพฤกษ์” มาถึง คู่แข่งผมคนแรกก็คือม.ราม กว่าจะเอาชนะมาได้ก็เกือบตายเหมือนกัน ออลืมบอกนี่คือการแข่งขันทีมชายประถม คู่แข่งคนที่สอง ก็ไม่ใช่ธรรมดา เพราะ เค้าเป็นถึง หลาน ภราดร ศรีชาพันธ์ เค้าชื่อ อริญชัย ศรีชาพันธ์
ชื่อเล่น พีท และครั้งนี้ก็ทำให้ผมได้เพื่อนใหม่อีกหนึ่งคน นั้นเอง เล่าต่อจาก ทีมชายประถม
ทีมก็ คือ จะมีเดี่ยวสองมือ ถ้าชนะทั้งสองมือ ก็จะได้เข้ารอบต่อไป แต่ถ้าชนะ ๑ แพ้ ๑
ก็จะต้องตัดสินด้วยคู่ แต่ทีมผมชนะทั้งสองครั้ง ผมจึงได้ข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ พอแข่งเสร็จ
จึงได้ข้อสรุปว่า ทีมเราแพ้ เพราะ เราชนะ ๑ แพ้ ๒ จึงได้เหรียญเงิน นั้นคือ เหรียญเงินแรกของผม ทอง คือ ม.ประสานมิตร วันต่อมาผมก็ต้องลงแข่งเดี่ยว รอบแรกผมชนะ ม.ประสานมิตร
แต่ในรอบสองนี้สิ ผมมีอาการปวดกล้ามเนื้อที่แขนขวา ทำให้ผมตีได้ไม่เต็มที่นัก จึงทำให้ผมแพ้ที่คะแนน 2-1 (10-8) เซ็ต นั้นทำให้ผม เจ็บใจมาก เพราะคนที่ผมแพ้ คือ คนที่ผมชนะมาในการแข่งขันประเภททีม คือ ม.ราม ผมจึงอดเหรียญต่าง ๆ น่าเสียดาย ! มาก อยากจะร้องไห้ แง แง แต่ถ้าเราคิดในอีกแง่มุมหนึ่ง ว่า เราอาจจะทำตัวเองก็ได้ เพราะ เราได้ยืดกล้ามเนื้อหรือทำให้กับการแข่งครั้งนี้หรือยัง และประเภทสุดท้ายที่ผมได้แข่ง คือ ประเภทคู่ผสม ผมคู่กับใครเอย? คน คนนั้น คือ เพื่อนห้อง ๓ นั้นเอง คู่แข่งที่ผมเจอมีทั้งยาก ง่าย ปะปนกันไป ดังนี้ 1. ม.จุฬา
2. ม.ราม 3. ม.เกษตร vs ม.บูรพา (โดยเฉพาะม.ราม กองเชียร์มันกวนสุดๆ มันน่ารำคาญสุดๆ) แต่ผมก็ชนะผมจึงเข้ารอบชิงครั้งที่ ๒ และครั้งนี้ผมก็ประสบความสำเร็จได้เหรียญทอง เหรียญแรกของผม ผมดีใจสุดๆ ! นี่คือการแข่งขันรายการสุดท้ายของกีฬาเทนนิสครั้งนี้คือการแข่งปิด Match นั่นเอง หลังจากจบการแข่งขันเราก็ได้เลี้ยงฉลองด้วยพิซซ่า ดีใจมากๆ
ผมได้มาดูพิธีปิดด้วย การแสดงของแต่ละมหาลัยก็ไม่ใช่เบา และเจ้าภาพครั้งต่อไปคือมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒประสานมิตร สิ่งที่ผมรอดูคือสิงโต และผมก็ได้ดูเต็มหน้าเต็มตาเลย หลังจากการแข่งขันกีฬาสาธิตสามัคคีผ่านไป ๑ อาทิตย์ พวกที่ตีเทนนิสด้วยกันพาไปกิน Oishi express ที่ jusco กินจนเดินไม่ไหวเลยครับ อิ่มสุด ๆ หลังจากนั้นผมก็ต้องกลับบ้านเพื่อเตรียมตัวเปิดเทอม ๒ แล้วสินะ
การแข่งขันครั้งนี้ทำให้ผมได้อะไรอีกเยอะ เช่น เพื่อน การคิดในแง่มุมต่างๆ และเรื่องดีหรือเรื่องร้ายที่ผ่านเข้ามาทำให้ผมรู้ว่าในเวลาแข่งขันเราอาจจะคิดว่าเขาไม่ใช่คู่แข่งเราเสมอไปก็ได้
แต่เราต้องแข่งกับใจตัวเองต่างหาก ผ่านเรื่องนี้ก็ต้องเตรียมตัว


เปิด เทอม

๒ แล้ว สินะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




เขียนโดย ด.ญ.ญาณิศา วัฒนะโชติ เลขที่๑๖ ป.๖/๕ ชิ้นงานที่ ๑

วันหยุดแสนสุข(ผสมทุกข์นิดหน่อย...)

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านทุกท่าน ก็ตามชื่อเลยค่ะ บทความนี้เกี่ยวกับวันหยุดในช่วงปิดเทอมที่ไปเที่ยวมากับครอบครัวมาค่ะ(ที่จริงไปแค่คุณแม่ น้องสาว เพื่อนคุณแม่อีก ๓ คน คุณพ่อไม่ได้ไปเพราะงานยุ่งและก็คุณตาขี้บ่นอีก ๑ คน)
เข้าเรื่องดีกว่า เริ่มเลยก็ออกจากบ้านประมาณตี ๕ ไปรับคุณตา(ขี้บ่น)ที่กรุงเทพฯ หลังจากนั่นก็ตรงไปจ.อุบลฯเลย มื้อเย็น (ดึกเพราะหลงทาง แง แง T-T)ไปกินข้าวที่บ้านของเพื่อนคุณแม่ กับข้าวเยอะมาก ก็มีไก่ย่าง (บ้านเพื่อนของคุณแม่คนหนึ่งทำอาชีพขายไก่ย่างที่อร่อยมาก ขอบอก) ส้มตำ ข้าวเหนียวและอีกสารพัดอย่าง พอกินเสร็จแล้วก็กลับที่พักกันพวกเพื่อนคุณแม่นอนที่บ้าน ส่วนพวกเราก็นอนที่โรงแรม (ประหยัด) วันที่ ๒ ก็พาครอบครัวของเพื่อนคุณแม่ไปด้วย แล้วก็ทิ้งคุณตาไว้ที่โรงแรม(คุณตาไม่อยากไปแล้วก็อยากชมเมืองมากกว่า)วันนั้นพวกเราไป เขื่อนสิรินธร แวะซื้อของและของกินที่ช่องเม็ก ได้กินตัวอ่อนผึ้งด้วย แต่กินนานๆแล้วจะอ้วก (เป็นจุดผ่านแดนไทย-ลาว) เที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ผาแต้ม ไปเล่นน้ำที่น้ำตกสร้อยสวรรค์ ตกเย็นก็ไปเดินตลาดหน้าโรงแรม(แค่เดินข้ามถนนก็ถึงแล้ว) ของกินเยอะแยะเลย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นขนมไทยอย่างพวกทองหยอด ฝอยทอง เต้าฮวยอะไรอย่างเนี้ย วันที่ ๓ ตอนเช้าหาอะไรกินที่ตลาดแถวแม่น้ำมูล (อยู่ใกล้นิดเดียว)ไปกินข้าวเกรียบปากหม้อญวน เสร็จแล้วก็ไปแวะวัดป่าใหญ่ ไปทำบุญเพราะว่าเป็นวันเกิดพอดีเลย จากนั้นก็ไปจ.บุรีรัมย์ ไปเที่ยวปราสาทเมืองต่ำกับปราสาทหินพนมรุ้ง ได้เจอดาราด้วยเพราะเขามาถ่ายหนังเรื่อง” ธิดาวานร ภาค ๒ ”กันที่นี้ ฮาฮา!ดวงดีจริง (พระเอกไม่มา) แต่ก็ทำเอาปวดขาไปหมดเลย โอ๊ย! T-T แล้วไปพักที่โคราช ๑ คืน
วันสุดท้ายแล้ว เหอะ! ก็ออกรถแต่เช้าไปปราสาทหินพิมาย
(ปวดขารอบ ๒โอ๊ย!) ขากลับเข้ากรุงเทพฯ ที่ปากช่องไปเจอ
ร้านอาหารร้านหนึ่งน่าสนใจมาก (ร้านบ้านไม้ชายน้ำ) เพราะ
เขาเอาของเก่ามาตกแต่งร้าน แล้วมันก็เยอะมาก มีต้นไม้
เยอะแยะเต็มไปหมดทำให้บรรยากาศดีสุดๆ แต่อาหารราคาแพง
เลยไม่ได้กิน (อด อด)
ปราสาทหินพนมรุ้ง

ในที่สุดก็ได้เวลากลับบ้านแล้ว (เสียใจจริงๆ นะ) พอถึงบ้านก็รีบอาบน้ำแล้วเรียนวิชาบรรทมศาสตร์ทันที ถึงการไปเที่ยวครั้งนี้จะสนุกมากแต่ก็หนีความทุกข์ไม่พ้นอยู่ดีอย่างเช่น ๑.หลงทางที่อุบล(อ.วารินชำราบ)นิดหน่อย ๒.(มาจากข้อ๑)ตอนหลงทางมันหิวข้าวจะตายอยู่แล้ว ๓.ที่ปราสาทแดดก็ร้อน(มากๆ) ๔.คุณตาบ่นตลอดทาง แต่ความสุข เสียงหัวเราะและขนมที่มีนั้นก็ทำให้ความทุกข์ทั้งหมดหายไป

-จบ-


+++++++++++++++++++++++++
---------------------------------------











เขียนโดย ด.ญ. ลลิต ศาสตร์พันธุ์
ปิดเทอมแสนสนุก
“เฮ!!! ปิดเทอมแล้ว....” วันนี้หลังสอบเสร็จ พวกเรา ป. 6/4 ต่างก็มีนัดฉลองปิดเทอมส่งท้ายปิดภาคเรียนที่1... แคนดี้แอนด์เดอะแก็งค์ อันประกอบไปด้วย แคนดี้ (หัวหัวหน้าแก็งค์) เอื้อย ซีน และ เบนซ์ รีบบึ่งไปโรบินสัน เพราะได้ข่าวมาว่าวันนี้มีเทศกาลไอศกรีม.
ที่ศูนย์การค้าโรบินสัน วันนี้มีคนมาเที่ยวเยอะมาก แก็งค์ของเรารีบเดินไปที่งานเทศกาลไอศกรีม ที่ลานไอศกรีมน่าตื่นตาตื่นใจมาก
มีการออกร้านไอศกรีมมากมาย พวกเราเดินผ่าน พี่ๆก็ตักไอศกรีมใส่ช้อนเล็กเล็กให้เราชิม ในรอบแรก
พวกเราก็เดินชิมให้ช่ำอุราเสียก่อน มีไอศกรีมรสแปลกๆ หน้าตาแปลกๆเช่น ซูชิไอศกรีม พิซซ่าไอศกรีม โรตีไอศกรีม แฮมเบอเกอร์ไอศกรีม
เอื้อย ติดใจไอศกรีมรสมินต์ เอื้อยบอกว่ามันชื่นใจดี ส่วนซีน ประทับใจ
ไอศกรีมผัดกล้วยสไตล์เกาหลี ส่วนเจ้าเบนซ์ อะไรก็อร่อยไปหมด ส่วนข้าพเจ้า
สตรอเบอร์รี่ ชอตเบท ได้ใจ เราเดินชิมเรื่อยเรื่อยจนวนมาถึงจุดเริ่มต้นของงาน
ทุกคนเตรียมสตางค์ คิดเอาไว้ในใจว่าจะรับประทานรสอะไรดี ไอศกรีมในฝัน
ทันใดนั่นเอง!!!! นางฟ้ามาโปรด คนอะไรช่างสวยงามขนาดนั่น คุณแม่ของข้าพเจ้าเดินมาพอดี
พร้อมกับคูปองสำหรับซื้อไอศกรีม
“ไอศกรีมต้องใช้คูปองซื้อ เขาไม่รับเงินสด” คุณแม่บอก คุณแม่แจกคูปองให้ทุกคน คนละ50บาท
“ ไปเลือกซื้อเอาเอง ใครชอบอะไรก็เลือกให้ถูกใจ ” นางฟ้าของฉันพูดฺ...ขอบคุณค่ะนางฟ้า
ทุกคนไหว้ขอบคุณคุณแม่ และทันใดนั้นพวกเราก็สลายตัวหลังจากรับคูปอง
เป็นไปอย่างที่คิด เอื้อยเดินแนบไปหาไอศกรีมรสมินต์ ซีนไปเที่ยวเกาหลี ไปกินไอศกรีมผัดกล้วยสไตล์เกาหลี เบนซี่ของเราเดินมา สองมือเต็มไปด้วยไอศกรีม รู้สึกจะเกินต้นทุนที่แม่ให้
ที่ดิฉันเห็นก็มี ไอศกรีมช็อคโตแลต1ถ้วยกับอีก1โคน ไอศกรีมวนิลาอีก1ถ้วย.. โอ้ พระเจ้าจอร์จ
เบนซ์ยอดมาก ส่วนดิฉัน มิกซ์เบอรี่หวานใจ พวกเราซื้อไอศกรีมได้แล้วก็หาที่รับประทาน
ไอศกรีมอร่อยมาก... พวกเราจัดการกับไอศกรีมเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปเที่ยวในส่วนของห้างต่อ
พวกเราไปดูของเล่นซึ่งราคาแพงมากกก ต้องทำใจกันอยู่นานว่ามันไร้สาระ
“แม่ครับ”... เบนซ์หันมาหาพวกเรา “เราไปก่อนนะแม่เรานัดกินข้าวที่ฟูจิไว้เปิดเทอมเจอกันใหม่”ฉันนึกในใจ จะชวนกันสักคำก็ไม่มี ตอนนี้เหลือสามสาว ชัด ชัด ช่า ซีนชวนไปเล่นเกมส์
ในโซนห้าง สักครู่ซีนก็ได้รับโทรศัพท์ คุณแม่มารับแล้ว. ตอนนี้เหลือฉันกับเอื้อย เราชวนกันไปอ่านหนังสือที่ B2S .
“แคนดี้จะกลับหรือยัง? ได้เวลาแล้ว” คุณแม่มารับฉันแล้ว... แล้วเอื้อยน้อยผู้น่าสงสารล่ะ จะอยู่กับใคร
“ เอื้อย มีคนมารับไหม” คุณแม่ถาม
“ ป้าไปส่งไหม?”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี่ยวป้าโอมารับ” เอื้อยตอบ
“ เอื้อยอยู่คนเดียวได้หรอ?”แคนดี้ถาม
“เขาอยู่ได้ เขาเคยอยู่มาแล้ว อ่านหนังสือในB2S ....เขามีโทรศัพท์ติดต่อกับป้า แคนดี้กลับบ้านเถอะ ไม่ต้องห่วงเขาหรอก” “ อยู่ได้จริงจริงนะ เค้ามีเรียนพิเศษต่อ ไว้เปิดเทอมเจอกันใหม่นะ”
แล้วคุณแม่ก็พาฉันออกจากB2S ไปเรียนพิเศษที่ คุมอง ระหว่างทางคุณแม่บอกให้ฉันโทรศัพท์
หาเอื้อยอีกทีหนึ่งว่าป้ามารับหรือยัง เอื้อยบอกว่า คุณป้ามาแล้ว คุณแม่บอก ค่อยสบายใจหน่อย
แล้วฉันก็ไปเรียน คุมอง และกลับบ้าน แฮปปี้ที่สุดเลยวันนี้ ปิดเทอมสะที!!! เย้ ฮิปปี!!!
************************************************************************************



เขียนโดย.....เด็กชายภาคย์ ลิขิตกุลธนพร






No comments:

Post a Comment